

โปรเจกต์จบ หรือ Senior Project สำหรับเด็กวิศวะ คือสนามจริงครั้งแรกในชีวิตนักศึกษาวิศวกรรม
.
บางคนทำแล้วสนุก บางคนทำแล้วร้องไห้
เพราะหัวข้อที่เลือก “มันไม่ใช่” …
และบางครั้งอาจเป็นจุดตัดสินว่า จะ “จบใน 4 ปี” หรือ “ต้องเรียนต่ออีกเทอม”
.
วันนี้ be-engineer จะมาบอก 3 กฎทองในการเลือกโปรเจกต์จบที่ใช้ได้จริงจากประสบการณ์ตรงของรุ่นพี่ในสายวิศวะ
เพื่อให้น้อง “จบ 4 ปีแน่ ๆ” และยัง “ต่อยอดใช้สมัครงานได้” ด้วยครับ
⸻
กฎข้อที่ 1 : เลือกหัวข้อที่ “เราชอบ” หรือ “ตรงกับงานที่อยากทำ”
.
โปรเจกต์จบอยู่กับเรานานเป็นปีครับ ถ้าเลือกหัวข้อที่เราไม่อิน มันจะทรมานมาก!
แต่ถ้าเลือกสิ่งที่เราชอบ… เราจะมีแรงทำแม้ตอนดึก ๆ
.
ที่สำคัญกว่านั้น คือ ให้มองไปถึง “อนาคต” ด้วย
.
อยากทำงานด้านไหน? ให้เลือกโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้องกับสายนั้น
เช่น อยากเป็นวิศวกรยานยนต์ ก็ทำโปรเจกต์เกี่ยวกับรถ อยากเป็นวิศวกรพลังงาน ก็ทำเรื่องเกี่ยวกับพลังงานสะอาด
เพราะเวลา HR เห็นหัวข้อใน Resume เค้าจะรู้เลยว่า“เด็กคนนี้โฟกัสดี” และ “พร้อมทำงานสายนี้จริงจัง”
⸻
กฎข้อที่ 2 : อาจารย์ที่ปรึกษาดี = มีชัยไปกว่าครึ่ง
.
อาจารย์ที่ปรึกษา ไม่ใช่แค่คนเซ็นชื่อรับรองโปรเจกต์ แต่คือ “ผู้กุมชะตาการจบ” ของเราเลยครับ
.
อาจารย์ที่ดีควรมี 3 อย่างนี้
1. ถูกจริต – สไตล์การสอนเข้ากับเรา คุยแล้วเข้าใจ
2. เชี่ยวชาญในหัวข้อที่เราทำ – ดูจากงานวิจัยหรือประสบการณ์ของท่าน
3. มีเวลาให้ – อันนี้สำคัญมาก อย่าเลือกอาจารย์ที่ยุ่งจนไม่มีเวลาตรวจงาน
เพราะอาจารย์ที่เข้าใจและดูแลใกล้ชิดจะช่วยให้โปรเจกต์ของเราราบรื่น และไม่หลงทาง
⸻
กฎข้อที่ 3 : ทีมดี = โปรเจกต์ดี
.
เพื่อนร่วมทีมคือปัจจัยสำคัญสุดท้าย ที่ชี้เป็นชี้ตายได้เลย
หลายคนพลาดตรงนี้…เลือกจาก “เพื่อนสนิท” แทนที่จะเลือกจาก “ความรับผิดชอบ”
เพราะถ้าเลือกผิด งานอาจตกอยู่ที่คนเดียวแล้วสุดท้ายก็ทะเลาะกันจนเกือบไม่มองหน้า
.
ทีมที่ดีควรมี
• คนที่ถนัดด้านเทคนิค
• คนที่เก่งคุย/ประสานงาน
• คนที่ละเอียดและทำรายงานได้ดี
แบ่งหน้าที่ให้ชัด แล้วเดินไปด้วยกัน จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นเยอะเลยครับ
⸻
สรุป
.
โปรเจกต์ที่ดี ไม่ได้เริ่มจาก “หัวข้อเท่ ๆ” แต่มันเริ่มจาก
• หัวข้อที่เราชอบ
• อาจารย์ที่เข้าใจ
• และทีมที่ไปด้วยกันได้
.
ใครกำลังจะเลือกโปรเจกต์ปีนี้ ลองเอา 3 กฎทองนี้ไปใช้ดูครับ
แล้วพี่เชื่อว่า “โปรเจกต์จบของน้อง จะไม่จบแบบเจ็บ” แน่นอน