3 สูตรลับ ที่เด็กวิศวะเกียรตินิยม 90% ใช้เหมือนกัน . เวลาพูดถึง “เด็กเกียรตินิยม” หลายคนอาจจะนึกถึงคนเก่ง พื้นฐานแน่น สมองดี เรียนอะไรก็เข้าใจเร็ว ซึ่ง…ก็ไม่ผิดทั้งหมด . แต่รู้ไหมว่า จากที่พี่ได้มีโอกาสคุยกับน้องๆ ที่ได้ A ในแต่ละวิชา กว่า 30 คนต่อเทอม ในแต่ละมหาวิทยาลัย กลับพบว่า “แทบทุกคนใช้เทคนิคคล้ายกันมาก” และที่สำคัญ… เทคนิคพวกนี้ ไม่ต้องเก่งมากก็ทำได้ แค่ต้อง “มีวินัย” . วันนี้ be-engineer ขอเล่าให้ฟัง . สูตรที่ 1: เข้าใจทฤษฎีในเชิงลึก เด็กที่เรียนดี จะไม่เริ่มจากการจำสูตร แต่เริ่มจากการ “เข้าใจภาพรวม” และ “ที่มาของสูตร” ถ้าอ่านชีทไม่พอ ก็เปิด textbook เพิ่ม . การเข้าใจว่าทำไมสูตรนี้ถึงใช้ได้ คือสิ่งที่ทำให้เราทำโจทย์ยากๆ ได้ในสนามสอบจริง เพราะสนามสอบ ไม่ได้ถามว่าเราท่องได้ไหม แต่มันถามว่าเราเข้าใจและนำไปประยุกต์ได้หรือเปล่า . สูตรที่ 2: ทำสรุปด้วยภาษาของตัวเอง สรุปที่ดีไม่ใช่การก็อปมาเรียงใหม่ แต่คือการเปลี่ยนจาก “สิ่งที่เรียน” ให้กลายเป็น “สิ่งที่เข้าใจ” . เด็กวศ.ที่เรียนดี จะมีสรุปของตัวเอง ที่อาจจะดูไม่สวย แต่เปิดเมื่อไหร่ก็อ่านแล้วเข้าใจทันที และมักจะกลับมาเติมตลอดเวลา เมื่อเจอโจทย์ที่น่าสนใจ . สุดท้าย… มันจะกลายเป็นอาวุธลับก่อนสอบ ที่ไม่มีใครก็อปได้ . สูตรที่ 3: ทำโจทย์ให้ครบ 4 Step เด็กวศ.เกียรตินิยมไม่ใช่แค่คนที่ “ขยัน” แต่คือคนที่ “ฝึกโจทย์อย่างมีกลยุทธ์” และนี่คือ 4 ขั้นตอนที่พี่เจอบ่อยที่สุด: . เริ่มจากโจทย์ใน Lecture ที่อาจารย์สอน ทำการบ้านหรือ Assignment ให้ครบ ไม่ลอก! ทำโจทย์ในหนังสือ be-engineer หรือ textbook ที่ใช้กันทั่วไป (มีเฉลยในเน็ตเยอะ) ปิดท้ายด้วยข้อสอบเก่า (ถ้าตรงกับอาจารย์คนที่ออกสอบยิ่งดี) . ทั้งหมดนี้ จะทำได้จริง ต้องมี “วินัย” และต้อง “เริ่มตั้งแต่วันนี้” ไม่ใช่รอให้ใกล้สอบค่อยฮึด . เพราะสุดท้าย… ผลการเรียนอาจไม่ได้เป็นทุกอย่างในชีวิต แต่มันคือเครื่องพิสูจน์ว่า “เราเคยตั้งใจทำสิ่งหนึ่งให้ดีที่สุดได้จริงๆ” . ถ้ารู้สึกว่าโพสต์นี้มีประโยชน์ แชร์ให้เพื่อนวิศวะรู้ด้วยครับ เรามาโตไปด้วยกัน