บทความ

A Beautiful Mind (2001) เป็นเรื่องจริงของ จอห์น แนช นักคณิตศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ย้อนกลับไปสมัยเขาเริ่มเรียนปริญญาโทที่มหาลัยพรินซ์ตัน ที่ทำให้เขาได้เรียนรู้ทั้งทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ และได้ทดลองปฏิบัติในวิชาแห่งความรักก่อนทุกอย่างจะพลิกผันเมื่อแนชค้นพบว่าเขาเจ็บป่วยด้วยอาการจิตเภทหวาดระแวง ซึ่งก่อให้เกิดภาพหลอนที่ส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงาน ความสัมพันธ์อย่างหนัก ถูกคนครหาว่าผิดปกติ และต้องต่อสู้กับอาการนั้นโดยมีเพื่อนๆ และ อลิเซีย แนช ภรรยาที่รักเขาสุดหัวใจคอยเคียงข้าง

image of แนะนำหนังดีของเด็กวิศวะ A Beautiful Mind (2001)

โดย Aat Sukavaj

28 สิงหาคม 2565

image of แนะนำหนังดีของเด็กวิศวะ A Beautiful Mind (2001)

ย้อนเวลากลับไปในยุคกรีกโบราณ นักปรัชญาที่มีชื่อเสียงอย่างอริสโตเติล มีความเชื่อว่าการเคลื่อนที่ของวัตถุแต่ละชิ้นขึ้นอยู่กับการผสมของธาตุ 4 (ดิน น้ำ ลม ไฟ) ในวัตถุนั้น และ “แรง” เป็นสิ่งที่ทำให้วัตถุเคลื่อนที่ได้ ยิ่งออกแรงมากวัตถุก็จะเคลื่อนที่ได้เร็วมากขึ้น หรือถ้าปล่อยของที่หนักไม่เท่ากันลงมาตามแนวดิ่ง ของหนักๆ จะตกลงมาเร็วกว่าของที่เบา นอกจากนี้เขายังคิดต่อไปว่าแรงต้านการเคลื่อนที่น่าจะส่งผลต่อการเคลื่อนที่ด้วย เช่น การเดินอยู่ในน้ำจะทำได้ยากกว่าในอากาศ แสดงว่าความเร็วของวัตถุน่าจะแปรผกผันกับแรงต้านอริสโตเติลยังเชื่อว่าการเคลื่อนที่ของวัตถุตามธรรมชาติมีความแตกต่างกัน เช่น ก้อนหินบนโลกอาจจะเคลื่อนที่ขึ้นหรือลง มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด แต่ดวงดาวที่อยู่นอกโลกเคลื่อนที่เป็นวงกลม วนไปวนมา ถ้าเป็นอย่างนี้การเคลื่อนที่ของวัตถุบนโลกกับดวงดาวนอกโลกก็ควรจะใช้กฎเกณฑ์ที่ไม่เหมือนกัน การเคลื่อนที่แบบนี้เป็นไปโดยธรรมชาติ (natural motion) แต่มีการเคลื่อนที่บางแบบเป็นไปโดยฝืนธรรมชาติ (violent motion) ซึ่งก็คือการเคลื่อนที่ที่อาศัยแรงดึง แรงผลักจากภายนอกเข้าไปกระทำ วัตถุไม่ได้เคลื่อนที่ไปด้วยตัวมันเองตามธรรมชาติ

image of ก่อนจะมาเป็นกฎข้อที่ 1 ของนิวตัน

โดย Max Phunsakorn

26 สิงหาคม 2565

image of ก่อนจะมาเป็นกฎข้อที่ 1 ของนิวตัน

หาพื้นที่ใต้กราฟหรอ? ก็อินทิเกรตสิ แต่กว่าจะได้มาเป็นสมการ กว่าจะรู้มันเท่ากับอินทิเกรต มนุษย์เราใช้เวลาศึกษากว่า 2,000 ปีย้อนไป 200-400 ปีก่อนคริสตกาล นักคณิตศาสตร์ยุคกรีก เริ่มสร้างสูตรหาพื้นที่ง่ายๆ เช่น รูปสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม ออกมาได้ แต่ถ้าเป็นพื้นที่ของรูปที่ซับซ้อนก็ยังไม่มีสูตรตายตัวที่ใช้หาได้

image of รู้ได้ไง พื้นที่ใต้กราฟ ต้องเท่ากับ อินทิเกรต

โดย Aat Sukavaj

23 กรกฎาคม 2565

image of รู้ได้ไง พื้นที่ใต้กราฟ ต้องเท่ากับ อินทิเกรต

The Man Who Knew Infinity เรื่องราวของ ศรีนิวาสะ รามานุจัน เด็กชายยากจนจากเมือเล็กๆทางใต้ของประเทศอินเดียด้วยความสนใจในตัวเลข เขาจึงเริ่มศึกษาวิชาคณิตด้วยตัวเอง ตอนอายุ 10 ขวบ เขาสามารถท่องตรีโกณได้ทั้งเล่ม ตอนอายุ 12 เขาสร้างทฤษฎีคณิตของตัวเอง เเละเมื่ออายุ 20 รามานุจัน ถูกไล่ออกเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเรียน

image of The Man Who Knew Infinity - อัจฉริยะโลกไม่รัก (2015)

โดย Aat Sukavaj

21 กรกฎาคม 2565

image of The Man Who Knew Infinity - อัจฉริยะโลกไม่รัก (2015)

เครื่องยนต์ในรถ เครื่องปรับอากาศ หรือโรงงานไฟฟ้า พวกนี้ใช้หลักการพื้นฐานของวิชาเทอร์โมไดนามิกส์ทั้งนั้นกว่าจะมาเป็นวิชานี้ไม่ไช่เรื่องง่าย นักวิทยาศาสตร์หลายคนต้องฝ่าฟัน ทำการศึกษา ทดลอง วิจัย ตีพิมพ์เอกสาร และหนังสือจำนวนมาก จนสรุปออกมาเป็นวิชาที่เราเรียนกัน โพสต์นี้เราจะเล่าถึงประวัติความเป็นมาของวิชาเทอร์โมไดนามิกส์นี้กันครับ

image of ประวัติย่อ Thermodynamics กำเนิดวิชาเทอร์โมไดนามิกส์

โดย Navapon Pittayaporn

16 กรกฎาคม 2565

image of ประวัติย่อ Thermodynamics กำเนิดวิชาเทอร์โมไดนามิกส์

โมลคือหน่วยใหม่ ที่นักเคมีกำหนดขึ้นมา เพื่อใช้แทน อนุภาคจำนวน 6.022(10²³) อะตอม รู้ได้ไงว่าเป็นเลข 6.022(10²³) เป็นแค่ 2 หรือ 5 อะตอม ไม่ได้หรอ ทำไมต้องเป็นเลขเยอะขนาดนั้นเรื่องของเรื่องคือ อะตอม 1 ตัว มันเล็กมาก และน้ำหนักเบาจัดๆ เช่น ไฮโดรเจน 1 อะตอม หนัก 1.66(10⁻²⁴) กรัม นักเคมีเลยมีความคิดจะรวมหลายๆอะตอมเข้าด้วยกันแล้วเรียกมันว่า โมล เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน แต่ปัญหาคือ 1 โมลเนี่ย ควรมีกี่อะตอมดีหล่ะ

image of โมลคืออะไร ทำไมไม่ใช้อะตอม หรือโมเลกุล?

โดย Euw Chaivanon

19 มิถุนายน 2565

image of โมลคืออะไร ทำไมไม่ใช้อะตอม หรือโมเลกุล?

Feynman Technique เทคนิคการเรียนเรื่องใหม่ โดยหนึ่งในนักฟิสิกส์ที่ทรงคุณค่าและมีอิทธิพลมากที่สุดในโลกของศตวรรษที่ 20ในการจัดอันดับนักฟิสิกส์ยอดเยี่ยมตลอดการ โดยสำนักข่าวบีบีซี ริชาร์ด ฟายน์แมน (Richard Feynman) เป็นนักฟิสิกส์สมัยใหม่เพียงคนเดียวที่ติด 10 อันดับแรกของโลก แม้แต่สตีเฟ่น ฮอว์คิง ยังได้อันดับ 16

image of Feynman Technique เทคนิคการเรียน โดยนักฟิสิกส์ระดับโลก

โดย Max Phunsakorn

13 มิถุนายน 2565

image of Feynman Technique เทคนิคการเรียน โดยนักฟิสิกส์ระดับโลก

ในมหาวิทยาลัยการตัดเกรดจะไม่มีเกณฑ์คะแนนตายตัว แต่เกรดที่ได้จะขึ้นอยู่กับคะแนนของนักเรียนทั้งชั้น การตัดเกรดแบบนี้จะเรียกว่าการตัดเกรดแบบอิงกลุ่ม1. Mean 2. SD - Mean คือค่าเฉลี่ยของคะแนนนักเรียนทั้งชั้น - SD (Standard Deviation) หรือ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เป็นค่าทางสถิติ นิยมประกาศมาพร้อมกับคะแนน

image of เกรดแบบอิงกลุ่ม เขาตัดกันยังไง

โดย Navapon Pittayaporn

4 มิถุนายน 2565

image of เกรดแบบอิงกลุ่ม เขาตัดกันยังไง

พี่จัดว่าเป็นแคลคูลัสที่สำคัญที่สุดในซีรีย์วิชาแคลคูลัสเลยครับ แคลฯ1 เหมือนเป็นฐานของพีระมิดในการเรียนวิศวะเลยก็ว่าได้ หากฐานไม่แข็งแรง ก็ยากที่จะสร้างพีระมิดที่มั่นคงและสมบูรณ์ได้ใช่มั้ยครับวิชานี้จะคล้ายกับแคลคูลัสพื้นฐานตอน ม.ปลายครับ จะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆคือ 1. Differential calculus หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “ดิฟ” นั่นแหละ และ 2. Integral calculus หรือที่เราเรียกว่า “อินทิเกรต”แต่ถึงจะเหมือนกันแต่แคลฯ1ระดับมหาลัย จะลึกกว่า ม.ปลายเยอะนะ เช่นตอน ม.ปลายเราจะเรียนการดิฟฟังก์ชันง่ายๆ แต่ในมหาลัยเราจะต้องดิฟได้ทุกฟังก์ชันครับ เรียนดิฟจบก็มาต่อที่อินทิเกรต และแน่นอนเราจะต้องอินทิเกรตฟังก์ชันพื้นฐานเป็นทุกฟังก์ชัน สิ่งที่ท้าทายเฟรชชี่อย่างพวกเราที่สุดสำหรับวิชานี้ยกให้ เรื่อง“เทคนิคอินทิเกรต” ทั้ง 5 แบบเลยครับ เจอหัวข้อนี้ไปดิฟก่อนหน้าคือง่ายไปเลย

image of 11 วิชาที่ ปี1 วิศวะ เกือบทุกภาคต้องเรียน

โดย Aat Sukavaj

24 พฤษภาคม 2565

image of 11 วิชาที่ ปี1 วิศวะ เกือบทุกภาคต้องเรียน

ทำไมคิดกับเครื่องคิดเลขถึงได้ 2 แต่หาใน google ได้ 8 ? เครื่องคิดเลขผิดหรือ google ผิด สองแหล่งนี้คำนวณต่างกันยังไง มีหลักการอะไรพิเศษหรือป่าว มาดูหลักการพื้นฐานของเครื่องคิดเลขหรือคอมพิวเตอร์กันก่อน โดยทั่วไปจะมีลำดับการทำงานเรียงตาม BEMDAS ดังนี้เรียงง่ายๆคือ เจอ วงเล็บ() ทำก่อนและต่อด้วย ยกกำลัง ต่อด้วย × ÷ ต่อด้วย + - โดยที่ × และ ÷ อยู่ในลำดับที่ 3 ทั้งคู่ มีลำดับการทำงานที่เท่ากัน เจอพร้อมกันจะทำเครื่องหมายจากซ้ายไปขวา เช่น 8 ÷ 2 × 2 = 8

image of การคูณแบบ Implicit Multiple

โดย Euw Chaivanon

23 เมษายน 2565

image of การคูณแบบ Implicit Multiple
1
...
3
4
5
6